bkk
.social
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบ
วันที่ 6 พาเที่ยวเกียวโต วัดน้ำใส Kiyomizu-dera และวัดทอง Kinkakuji [Pantip]
japan
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
วันที่ 6 พาเที่ยวเกียวโต วัดน้ำใส Kiyomizu-dera และวัดทอง Kinkakuji [Pantip]
รายงานเนื้อหาไม่เหมาะสมหรือแจ้งลบ (ต้องเป็นสมาชิก)
หัวข้อ:
วันที่ 6 พาเที่ยวเกียวโต วัดน้ำใส Kiyomizu-dera และวัดทอง Kinkakuji [Pantip]
japan
วันที่ 6 ของทริปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ระหว่างวันที่ 1-8 ธันวาคม 2012 วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเมืองเกียวโต กับสถานที่ยอดฮิต นั่นคือวัดน้ำใส Kiyomizu-dera และวัดทอง Kinkakuji กันครับ
tag: รีวิว เที่ยวเกียวโต kyoto japan ด้วยตัวเอง วัดทอง วัดน้ำใส
ความคิดเห็น
japan
เช้านี้เราเริ่มออกเดินทางจากสถานี shin-osaka ครับ ก่อนอื่นแวะเติมพลังกันก่อน กับร้านเทมปุระในสถานีครับ
japan
จัดข้าวหน้ากุ้งเทมปุระไป ราคาไม่แพง รสชาติอร่อยใช้ได้เลย
japan
เสร็จแล้วเราก็ไปจองตั๋วชินคังเซนกัน เค้าจะมีห้องพิเศษสำหรับขายตั๋วชินคังเซนแบบนี้ ใครถือ JR-Pass 7 วัน ก็เอาไปแลกตั๋วมาได้เลย ฟรี ไม่ต้องเพิ่มสักบาท
japan
ได้ตั๋วมาแล้วครับ หน้าตาตํ่วจะเป็นแบบนี้ เราจะนั่งรถไฟฟ้าชินคังเซนไปยังเมือง Kyoto โดยตรงเลย ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกว่าๆแค่นั้นเอง เพราะอยู่ใกล้ๆกันกับ Osaka ครับ
japan
ระหว่างนั่งรอขบวนรถไฟของเราครับ (ขึ้นให้ถูกขบวนล่ะ ดูจากเวลาที่ระบุไว้ก็ได้ เพราะมาตรงเวลาเป้ะๆ)
japan
มองจากด้านข้างตรงๆ หัวยาวมากๆ เพื่อความลู่ลมครับ
japan
ถึงสถานี Kyoto แล้วครับ วันนี้เด็กนักเรียนเยอะมากๆ สงสัยทางโรงเรียนพามาทัศนะศึกษา
japan
แผ่นซับมันยี่ห้อดัง มีขายในสถานีรถไฟ Kyoto ไม่ต้องหาไปซื้อที่อื่นเลยครับ (มีอีกที่อยู่ในสนามบินคันไซ)
japan
ออกมาจากสถานีแล้วครับ ถึงกับงงนิดหน่อย เพราะรถราเยอะมากๆ ทั้งรถบัส รถเมล์ รถ taxi ที่เกียวโตจะไม่ค่อยมีรถไฟฟ้าเยอะเหมือนกับ Tokyo หรือ Osaka นะครับ คือมีเหมือนกัน แต่ไม่ได้ผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญๆเท่าไร ต้องอาศัยนั่งรถเมล์หรือ taxi เอาครับ
สำหรับวันนี้ผมเน้นชัวร์ๆและปลอดภัย รวดเร็ว ถึงที่หมายแน่นอน เลยจัดรถ taxi ไปเลยครับ (มากัน 4 คนก็คุ้มอยู่นะ) ประหยัดเวลาไปพอสมควรถ้าเทียบกับการรอรถเมล์
japan
บรรยากาศในเมืองจะแทบไม่มีตึกสูงๆเลย มองไปเห็นวิวภูเขาไกลๆ เป็นเมืองที่ร่มรื่น บรรยากาศดีครับ แต่ยังไม่เงียบสงบเท่าไรนัก เพราะรถค่อนข้างจะเยอะอยู่ ถ้าเน้นเงียบๆสงบจริงๆต้อง Shizuoka หรือ Nagoya นู้น
japan
ถึงแล้วครับ รถ taxi เค้าจะจอดตรงก่อนทางขึ้นวัด เพราะเส้นทางที่จะขึ้นไปวัดรถเข้าไม่ได้นะครับ เดินขึ้นไปอีกไกลพอควร แต่ไม่ต้องห่วง ระหว่างทางมีร้านให้ละลายทรัพย์เพียบ
japan
พวกร้านขายของฝาก ขนมต่างๆมีเพียบ แต่ถ้าจะซื้อของฝากต่างๆไว้ขากลับมาค่อยซื้อก็ได้ เพราะต้องลงมาผ่านทางเดิม
japan
ที่วัดน้ำใสนี้จะเห็นคนใส่ชุดยูคาตะหรือชุดกิโมโนเยอะมากๆครับ (สามารถเข้าไปขอเค้าถ่ายรูปด้วยได้)
japan
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ คนเยอะพอสมควร ขนาดไม่ใช่ช่วงเทศกาลสำคัญนะ
japan
ผ่านโซนที่เป็นร้านค้าแล้วก็จะเจอประตูยักษ์สีแดงแปร็ดอันนี้ก่อนเลยครับ แต่วัดจริงๆยังต้องเดินต่อไปอีก
japan
มองย้อนกลับมาด้านล่างบ้าง
japan
มองลงมาจะเห็นใบไม้สีแดงๆพร้อมกับวิวเมืองเกียวโตเป็นฉากหลัง สวยมากๆ
japan
มองลงมาจะเห็นใบไม้สีแดงๆพร้อมกับวิวเมืองเกียวโตเป็นฉากหลัง สวยมากๆ
japan
น่าจะเป็นใบที่เอาไว้เขียนขอพรนะครับ อยากได้อะไรก็เขียนแล้วเอามาแขวนไว้ครับ (แต่จะได้หรือปล่าวนํะอีกเรื่อง)
japan
พวงกุญแจสวยๆ กับของสะสมต่างๆมีขายเพียบ
japan
ผ่านประตูนี้ก็จะเข้าภายในตัววัดจริงๆแล้ว
japan
พอเข้ามาภายในวัด พื้นที่ทางเดินก็จะยิ่งแคบลงอีก ทำให้ดูแออัดเข้าไปอีกครับ ภายในวัดก็จะมีให้เข้าไปจุดธูปไหว้ขอพรด้วย คล้ายๆกับศาลเจ้าบ้านเรา แต่ด้วยคนเยอะ เลยทำให้ถ่ายภาพลำบากครับ
japan
เดินมาตรงระเบียงแล้วมองลงมาข้างล่างจะเห็นจุดที่เป็นบ่อน้ำที่ให้คนมาดื่มขอพรกัน
japan
สิ่งที่ทำให้วัดน้ำใส Kiyomizu-dera สวยงามกว่าวัดอื่นๆก็ตรงที่อยู่บนเนินเขาเนี่ยละครับ เวลามองลงมาแล้วมันเห็นวิว เห็นต้นไม้เปลี่ยนสี สวยงามมาก
japan
สักรูปกับมุมมหาชน ถ้ามาแล้วก็ต้องมาถ่ายที่มุมนี้นะ
japan
ถ้าให้สวยสุดๆก็ต้องมาช่วงกลางฤดูใบไม้เปลี่ยนสี กลางเดือนพฤษจิกายน หรือช่วงซากุระบาน กลางเดือนเมษา
japan
นี่ขนาดมาช่วงต้นธันวาคมยังสวยเลย
japan
เดินออกมาไกลๆหน่อยจะมองย้อนกลับไปเห็นในตัววัดได้ชัดเจนเลย
japan
เจอแก๊งค์นักเรียนมัธยมปลายตลอดทาง
japan
ขากลับก็เดินลง ผ่านซอยละลายทรัพย์เหมือนเดิม
japan
เดี๋ยวเราจะไปต่อกันที่วัดทอง (Kinkakuji) กันเลยนะครับ ใช้บริการ Taxi เหมือนเดิม ชัวร์ เร็ว ไม่หลงแน่นอน แต่แพงคับ
japan
ถึงวัดทองแล้วครับ
japan
รู้สึกว่าในวันที่ผมไป วัดทองจะมีชาวต่างชาติมากันเยอะพอสมควร ถ้าเทียบกับวัดน้ำใสนะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน
japan
เดินมานิดเดียวก็จะถึงหน้าประตูวัด ยังดูธรรมดาๆอยู่
japan
แต่ผมชอบวัดทองอยู่อย่าง ตรงที่ทางเดินเค้าจะทำเป็นหินกรวดเล็กๆ ไม่มีส่วนที่เป็นดินเลย แล้วก็ข้างๆทางเดินจะเป็นพื้นหญ้าที่มีมอสปกคลุมอยู่เกือบทั้งหมด ดูร่มรื่นๆคล้ายๆกับแถบยุโรปดี
japan
เสียค่าด้วยนะครับ คนละ 400 เยน อ่อ ลืมบอกไปว่าวัดน้ำใสก็เสียค่าเข้าเหมือนกันครับ
japan
ผ่านจุดที่เสียค่าเข้ามาก็จะเจอกับตัววัดทอง สีทองอร่ามแสบตาดีจริงๆครับ
japan
ตัววัดจะอยู่กลางน้ำเลยนะครับ กล้องใครซูมไม่ได้ก็ถ่ายลำบากหน่อย
japan
ถ้ามาได้ช่วงเวลาเหมาะสมของวัน ถ่ายรูปออกมาจะเห็นเป็นเงาสะท้อนกับผิวน้ำประมาณนี้
japan
ตัววัดทองก็มีแค่ไฮไลท์ที่เป็นตัววัดแค่นั้นจริงๆ ส่วนบรรยากาศภายในวัด ผมว่ายังงั้นๆ สู้วัดน้ำใสไม่ได้
japan
ร้านขายของที่ระลึกมีอยู่ 2-3 ร้าน รู้สึกจะเป็นของทางวัดเองเลย
japan
เดินไปเรื่อยๆข้างๆทางเดินก็จะมีคล้ายๆพระพุทธรูปอยู่ (ไม่ทราบว่าเค้าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน) แต่ก็เห็นมีคนโยนเหรียญไปเยอะอยู่
japan
หมดแล้วครับ วัดน้ำใส เดินสักชั่วโมงนึงก็เสร็จแล้ว เดี๋ยวเราจะออกไปเดินเล่นชมเมืองเกียวโตต่อสักนิด
พอดีผมดูในแผนที่เห็นมีร้าน ramen อยู่ใกล้ๆ แต่พอเดินเข้าจริงๆรู้สึกว่ามันไกลพอควร หากใครจะมาลอกการบ้านทริปนี้ ผมไม่แนะนำให้เดินต่อเท่าไร นอกจากจะมีแรงเหลือเฟิอจริงๆครับ
ปล. ถ้ามาเป็นกลุ่ม 3-4 คนแล้วต้องรีบทำเวลาต่อ แนะนำให้จัด taxi กลับสถานีหรือโรงแรมเลยครับ
japan
เดินมาอีกราวๆ 4-5 กิโลได้ครับ กว่าจะถึง เล่นเอาเมื่อยเลย ราเม็งก็รสชาติพอได้ครับ อร่อยแต่ไม่ถึงกับว่าต้องมาให้ได้
japan
ที่นี่บ้านช่องต่างๆจะไม่ค่อยแออัดเหมือนในโตเกียวหรือโอซาก้า ทำให้เวลาเดินทางแล้วรู้สึกเหมือนมันไกลๆ เพราะข้างทางไม่ค่อยมีร้านค้าให้ดูเพลิดเพลินตานัก คนที่นี่เค้าจะนิยมขี่จักรยานก็ซะส่วนใหญ่ (แทบจะไม่เห็นใครเดินเหมือนเราเลย) T_T
japan
มีร้านขายจักรยานทั้งมือหนึ่งมือสองหลายร้านเลยครับ
japan
ด้วยความงก ไม่อยากเรียก taxi แล้ว ก็เลยดั้นด้นเดินมาจนถึงสถานีรถไฟ JR ให้ได้ เพื่อที่จะนั่งกลับไปยังสถานี Kyoto ครับ เพราะมี JR Pass ก็เลยต้องใช้ให้คุ้ม
japan
สถานีชื่ออะไรก็ไม่ทราบได้ ดูต่างจังหวัดม๊าากกกก เพราะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนครับ หากใครไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นเลย แนะนำว่าค่อนข้างจะเสี่ยงสักหน่อย ถ้าพอมีงบก็ Taxi กลับสถานี kyoto ดีกว่า
japan
ขากลับเราก็จะนั่งชินคังเซนจาก Kyoto กลับไปยัง shin-osaka เหมือนเดิมครับ สำหรับวันนี้หมดแค่นี้แล้ว เดี๋ยวติดตามต่อวันพรุ่งนี้กับสุดยอดปูทาราบะที่เลื่องชื่อใน Osaka ครับ
janya12
ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน
รีวิวแชร์ประสบการณ์การเช่าจักรยานในญี่ปุ่น (โตเกียว) และการขี่จักรยานในญี่ปุ่น แบบละเ..
40
อ่าน 47,798
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 6 พาเที่ยวเกียวโต วัดน้ำใส Kiyomizu-dera และวัดทอง Kinkakuji [Pantip]
50
อ่าน 70,195
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
Japan Sakura Forecast 2014 - พยากรณ์ซากุระบานที่ญี่ปุ่น 2014 (อัพเดตล่าสุด 13 มีนาคม..
1
อ่าน 7,114
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 5 บ่าย พาเที่ยว Tempozan พิพิธภัณฑ์ Kaiyukan แถมท้ายด้วยตะลุยห้าง Hanshin/Hank..
40
อ่าน 41,700
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 5 เช้า - เที่ยวปราสาท Osaka (Osaka Castle)
42
อ่าน 77,359
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 4 - พาเที่ยว Osaka กินของอร่อยย่าน Shinsekai และชมแสงสีที่ Dōtonbori และป้ายกู..
50
อ่าน 94,182
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
สถานที่โรแมนติคลึกลับใจกลางชินจูกุ เหมาะกับการไปออกเดทยิ่งนัก (Shinjuku Southern Terr..
15
อ่าน 21,248
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
รีวิว พากินร้านเนื้อมัตสึซากะ ร้าน Rokkasen ที่ชินจูกุ โตเกียว
12
อ่าน 85,223
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 3 - ช้อปปิ้งและกินของอร่อยที่ Shinjuku ภาคบ่ายนั่งชินคังเซนเที่ยว Shizuoka เมื..
46
อ่าน 99,902
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 2 ช่วงบ่าย - ชมหอคอยโตเกียวสกายทรีแห่งใหม่ Tokyo Sky Tree
45
อ่าน 90,889
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 2 - พาเที่ยวตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) กินซูชิที่อร่อยที่สุดในโลกนี้!
33
อ่าน 202,893
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 1เย็น - เดินเที่ยวและช้อปปิ้ง Harajuku แหล่งแฟชั่นของญี่ปุ่น
10
อ่าน 85,444
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
รีวิวโรงแรม Shinjuku Sunroute Plaza Hotel
13
อ่าน 76,787
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ความรู้เบื้องต้นก่อนไปประเทศญี่ปุ่น
7
อ่าน 53,093
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง - รีวิวร้านซูชิ Sushi Zanmai (สาขา Asakusa)
19
อ่าน 93,655
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
รายงานข้อความไม่เหมาะสม/แจ้งลบ
×
เขียนคำอธิบาย
View profile
Add to close friends
Block
Close