ทำได้ 1. เป็นตำแหน่งที่มีเงิน 2. กรณีที่มีผลสอบของบค.38 ค(2) ไว้ก็สามารถดำเนินการแต่งตั้งได้ 3. เป็นตำแหน่งที่มีความจำเป็น มิฉะนั้นจะทำให้ราชการเสียหาย (ใช้ อ.ก.ค.ศ.ให้เป็นประโยชน์) โดยความเห็นชอบจาก อ.ก.ค.ศ.ก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งที่มีความจำเป็นน้อยกว่ามาแทน(ระวัง ต้องมีการวิเคราะห์ที่เป็นวิทยาศาสตร์ด้วยนะ )
ขอสอบถาม คุณรัชนี กรณีตำแหน่งว่างจากการตัดโอนตำแหน่งและเงินเดือนไปยัง สพม.แล้ว ตำแหน่งว่างนั้นเป็นตำแหน่งระดับ ผอ.กลุ่ม แต่เป็นตำแหน่งว่างที่ไม่มีเงิน กรณีนี้ สพป. จะดำเนินการสรรหาคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งแทนได้หรือไม่ อย่างไร
คำตอบ ตามข้อ 3 เสร็จแล้วขอความเห็นชอบไปที่ สพฐ.กคศ.ตามลำดับ หรือถ้าไม่มีเงินก็ขอใช้ไปที่ สพฐ. ที่จริง สพท.ก็มีอำนาจดำเนินการได้อยู่แล้วถ้าเป็น กคศ.เองนะ จะใช้ ว.17 ปี 52 ของ ก.พ.เป็นแนวทางดำเนินการ คือ 1. ตำแหน่ง ผอ.กลุ่ม มิใช่ตำแหน่งตามโครงสร้าง (ประเภทวิชาการ)2.ตำแหน่งถูกตัดโอนไปแล้วตามคำสั่ง กคศ. แต่สพท.เดิมยังมีความจำเป็นต้องใช้ผู้ที่ มีคุณสมบัติ ตำแหน่ง ประสบการณ์ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ หรือ วุฒิ ตามโครงสร้าง และกรอบอัตรากำลังที่ กคศ.กำหนดไว้เดิม เพราะหน่วยงานยังไม่ถูกยุบเลิก หรือมีการเปลี่ยนแปลง อำนาจ หน้าที่หรือภารกิจ ฉะนั้น สพท.สามารถประเมินค่างานขอกำหนดเก้าอี้ โดย อกพ.กระทรวงเป็นผู้อนุมัติ(กคศ.) ได้ ตามว.17 ของ ก.พ.มอบอำนาจไว้แล้ว3.เมื่ออนุมัติเก้าอี้ แล้ว สพท.ก็ คัดเลือกคนเข้าสู่ตำแหน่งโดยใช้ ว.10 ปี 48 ของ ก.พ.**แนวทางนี้เป็นทางออกสุดท้ายนะ ถ้า สพท.ไม่กล้ายุบเลิกหรือเปลี่ยนตำแหน่งภายใน สพท.เอง**
ตำแหน่ง ผอ.กลุ่ม เป็นตำแหน่งว่างที่มีเงินก็ ก็ไม่มีปัญหา ก็ใช้ตำแหน่ง ผอ.กลุ่มเดิมอยู่ แต่ ปกติทั่วไป หลักเกณฑ์เขาให้คัดเลือกจากผู้ที่มีคุณสมบัติตามตำแหน่งและระดับเดิมที่กำหนดไว้ เคยมี สพฐ.ทักท้วงไว้แล้ว เพราะทำให้ ราชการเสียประโยชน์ และเหมือนคุณมีเจตนาต้องการให้คนระดับต่ำกว่าได้เลื่อนระดับสูงขึ้น และเคยมีบาง สพท.ถูกซี 8 ฟ้องแพ้มาแล้วมีเขาอยู่ แต่ไม่ให้เขามีสิทธิคัดเลือก ถ้ามี ชพก.อยู่ถ้าไม่เป็นตำแหน่งปิดก็ควรคัดเลือกจากระดับเดียวกันและตามกลุ่มที่กคศ.จัดกลุ่มไว้ก่อน ถ้าไม่มีค่อยว่ากันภายหลังจะดีกว่า
กรอบอัตราของ สพม.กคศ.แจ้งให้ดำเนินการตั้งแต่ ปี2553 แล้วให้มีการวิเคาะห์งานใหม่เพื่อจัดกรอบใหม่ภายใน 1 ปี เพราะฉะนั้น สพม.ถือว่ามีกรอบอัตราถูกต้องแล้ว * การจัดกรอบของแต่ละ สพม.จะต้องดูว่ากรอบที่ กคศ.กำหนดตำแหน่ง เลขที่ตำแหน่งอะไร ต้องจัดคนลงกรอบให้ตรงกับมาตรฐานการกำหนดตำแหน่งนั้น ๆ เช่น กรอบของ กลุ่มอำนวยการ อ.1 กำหนดเป็นตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษ ก็ต้องจัดคนที่มีตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษลงก่อน แต่ไม่มีคนโอนมาก็ให้ ระดับชำนาญการลงตามลำดับ หรือ อาจจะเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ ที่ กคศ.จัดกลุ่มไว้อยู่ในกลุ่มเดียวกันก็ได้**การคัดเลือก ผอ.กลุ่มเป็นอำนาจของของ สพท.เขาจะใช้วิธีการใดในการคัดเลือกนั้นก็อยู่ที่ ผอ.สพท.เขาอาจจะมองว่าคนนั้น สามารถปฎิบัติหน้าที่ ผอ.กลุ่มได้ดีก็ได้ ***ถ้าคิดว่า การปฎิบัติหน้าที่ ผอ.กลุ่ม (ส่งเสริม/เอกชน) แล้วจะได้ระดับเชี่ยวชาญ(ซี9) เหมือนกับได้ระดับชำนาญการพิเศษ(ซี8)นั้น คุณคิดผิด เพราะระดับเชี่ยวชาญ ก.พ.ไม่ได้มอบอำนาจให้ อกพ.กระทรวง และ กคศ.ก็ยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงานเลื่อนระดับให้แต่งตั้งได้ นอกจากศึกษาจาก หลักเกณฑ์และวิธีการของ ก.พ. ตาม ว.17 ปี 2552 เท่านั้น และแนวคิดของ สพฐ.และ กคศ.ก็จะกำหนด ระดับเชี่ยวชาญไว้ที่ กรม(สพฐ.) เพราะถ้าประเมินค่างานแล้ว คะแนนจะได้ตามเกณฑ์ที่ ก.พ.กำหนด**ถ้าเป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้ ตำแหน่งที่ปัจจุบันเป็นระดับชำนาการพิเศษ ที่ กคศ.กำหนดให้ถึงเชี่ยวชาญไว้ ตามกฏ กคศ.ก็มีสิทธิทั้งหมด ถ้ามีผลงานและผ่านการประเมินค่างาน ไม่เฉพาะ ผอ.เท่านั้น **การเป็น ผอ.กลุ่ม มันมีผลประโยชน์อย่างอื่นแอบแฝงมากกว่านี้ เช่น ได้รับการพิจารณาขั้น ดีเด่น ทุกรอบ(เอาผลงานลูกน้อง) ได้มีสิทธิไปสอบ รอง ผอ.สพท. ฯลฯ
กรณีประเมินคัดเลือก ผอ.กลุ่ม จากตัวเลือก ชนพ. มี 2 คน (คน1)โทบริหารธุรกิจโตจากสายการเงินอ่อนอาวุโสทุกอย่าง ได้ ชนพ จากมาตรการจูงใจแล้วเปลี่ยนสายงานจากการเงินเป็นนักวิชาการศึกษา) ผู้บริหารใช้ลูกเล่นแต่งตั้งเป็น ผอ.กลุ่มเตรียมรอลงกรอบ สร้างเกณฑ์ประเมินคัดเลือกให้(คน 1)ได้เปรียบคะแนนประเมินส่วน (คน 2) โทบริหารการศึกษาอาวุโสทุกอย่าง เป็น ชนพ จากสายงานวิชาการโดยตรง ถ้าใช้เกณฑ์ประเมินแพ้รูด กรณีนี้ ถ้าฟ้อง กพค. เพื่อขอความเป็นธรรมได้หรือไม่ เนื่องจากการแต่งตั้งไม่ยึดแนวความอาวุโส ขาดระบบคุณธรรม ทำให้ขาดขวัญกำลังใจในการทำงานจะได้หรือไม่ ถ้ามีลักษณะนี้หลายหน่วย ต่อไปจะยึดเกณฑ์อะไรที่ยุติธรรม เพราะทุกคนต้องการความก้าวหน้าในสายงาน แต่ถ้าผู้บริหารใช้ความพึงพอใจ(?) ตามชอบใช้เกณฑ์บังหน้า อีกหน่อยคนที่มีความแพรวพราว กระโดดสายงานตามชอบเพื่อก้าวกระโดดต่างสายงานให้เร็วที่สุด สังคมราชการจะสงบได้อย่างไร รู้ๆ กันอยู่ เจ้าหน้าที่ในสำนักงานจะมีโอกาสเติบโตเมื่อมีการปรับกรอบอัตรากำลัง/หรือปรับโครงสร้่างเท่านั้น มิใช่หรือต้องรอโอกาสอันยาวนาน คุณรัชนี ช่วยกรุณาตอบข้อข้องใจให้ด้วยเพราะจะเดินหน้าฟ้อง/ขอขอบคุณสำหรับคำตอบ