การเบิกค่าผ่อนชำระเงินกู้

ได้เฉพาะค่าก่อสร้างบ้าน  ต้องซื้อบ้านพร้อมที่ดิน จึงจะเบิกได้ทั้งหมด

ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.5/ว.19 ลว.13 กุมภาพันธ์ 2547  เรื่อง แนวปฏิบัติเกี่ยวกับหลักฐานการชำระราคาบ้านและที่ดินเพ่อการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ
...ข้อ 3 กรณีข้าราชการได้กู้เงินมาเพ่อซื้อที่ดินและจ้างปลูกสร้างบ้านบนที่ดินที่ซื้อในคราวเดียวกัน จะมีสิทธินำหลักฐานการผ่อนชำระเงินกู้มาเบิกค่าเช่านได้ตามวงเงินกู้ แต่ไม่เกินจำนวนราคาที่ดินที่ซื้อขายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่รวบกับราคาบ้านตามสัญญาจ้างปลูกสร้างบ้าน...
   จากหนังสือนี้  แสดงว่าถ้ากู้เพื่อซื้อที่ดินและก่อสร้างบ้านในคราวเดียวกัน แสดงว่าเบิกได้ แต่ราคาที่ดินเบิกได้แค่ จนท.ที่ดินประเมินถูกหรือไม่ค่ะ

ถูกต้องครับ บ้านจัดสรรบางแห่ง หลีกเลี่ยงกฎหมาย จึงได้ทำสัญญาขายที่ดิน และรับจ้างปลูกบ้าน จึงต้องเอาสัญญาทั้ง 2 มารวมกันและเบิกได้ตามราคาที่แจ้งต่อพนักงานที่ดิน  แต่หากท่านทำสัญญาซื้อขายที่ดินวันที่หนึ่ง ไปทำสัญญาจ้างอีกวันที่หนึ่ง อย่างนี้ก็จะเบิกได้เฉพาะค่าก่อสร้างบ้านเท่านั้น

ดูตามหนังสือสั่งการน่าจะเบิกได้ทั้งที่ดินและค่าจ้างเหมาปลูกสร้างบ้าน....เพราะหนังสือแยกชัดแล้วว่าค่าที่ดินเบิกได้ตามราคาซื้อขายที่แจ้งต่อพนักงานเจ้าที่ดินรวมกับราคาบ้านตามสัญญาจ้างเหมาปลูกสร้าง ไม่ได้เขียนว่า "ข้าราชการได้กู้เงินมาเพ่อซื้อที่ดินและจ้างปลูกสร้างบ้านบนที่ดินที่ซื้อใน คราวเดียวกัน จะมีสิทธินำหลักฐานการผ่อนชำระเงินกู้มาเบิกค่าเช่านได้ตามวงเงินกู้ แต่ไม่เกินจำนวนราคาที่ดินที่ซื้อขายและราคาบ้านตามสัญญาจ้างปลูกสร้างที่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่"   ซะหน่อย ในการยื่นกู้เงินธนาบันทางการเงินคุณต้องมีสัญญาจ้างเหมาปลูกสร้างที่ลงนามเรียบร้อยแล้วไม่จำเป็นต้องวันเดียวกันที่ทำสัญญาชื้อขายที่ดิน ณ สำนักงานที่ดิน เพราะสัญญาจ้างเหมาปลูกสร้างอาจระบุวันเริ่มสัญญาเมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารก็ได้  และค่าจ้างเหมาปลูกสร้างอาคารไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพราะ....สิ่งปลูกสร้างมันยังไม่มี (ยังไม่มีบ้าน) คิดค่าธรรมเนียมไม่ได้

ท่านนายช่างคิดได้ไงอะ ก็เขียนว่ากรณีข้าราชการได้กู้เงินมาเพื่อซื้อที่ดินและจ้างปลูกสร้างบนที่ดินที่ซื้อในคราวเดียวกัน ความหมายมันก็ชัดอยู่แล้วว่า ซื้อที่ดินและจ้างปลูกบ้านพร้อมกัน(ในคราวเดียวกัน) สัญญาซื้อขายที่ดิน สัญญาจ้างก่อสร้างบ้าน สัญญากู้เงินมันต้องตรงกัน(วันท่ีทำสัญญา) จึงเป็นคราวเดียวกัน ถ้าไม่ตรงกันจะเป็นคราวเดียวกันได้อย่างไร

การทำสัญญาซื้อขายที่ดินวันไหน ก็ถือว่าท่านมีกรรมสิทธิในที่ดินวันนั้น  ถ้าท่านจ้างปลูกบ้านหลังวันที่ท่านทำซื้อขายที่ดิน ก็จะเข้าข้อ 4 กลายเป็นท่านมีที่ดินเป็นของตนเองแล้ว ท่านจะเบิกได้เฉพาะสัญญากู้เงินเพื่อจ้างปลูกสร้างบ้านเท่านั้น

สาระสำคัญมันต่างกันระหว่างข้อ 3 กับข้อ 4 ก็ตรงสัญญาจ้างปลูกบ้านนั่นแหละ คุณดูที่เอกสารแนบซิ เหมือนกันทุกอย่างเลย