สอบคัดเลือกตำแหน่งนักวิชาการพัสดุได้ขึ้นบัญชี สพท.และบัญชีรวมของ สพฐ. เมษายน 2553 นี้ ก็ครบ 2 ปี แล้ว ยังไม่ได้รับการ
แต่งตั้งตามตำแหน่งว่างเลยสักบัญชีเดียว อยากทราบว่าทาง
ผู้บริหารระดับสูงในกรมมีความเห็นอย่างไรที่จะมีช่องทางให้ข้าราชการด้อยโอกาสอย่างเราได้รับการแต่งตั้งอย่างสมศักดิ์ศรีบ้าง
ก่อนหน้านั้นก็ว่าจะข้ามเข้าสู่ 3-5 ต้องผ่านการสอบเท่านั้น สพฐ.ท่านก็เมตตาจัดการสอบให้พวกเรา เท่านั้นก็จบ เพราะไม่มีการ
บรรจุแต่งตั้งเพราะไม่มีที่ว่างให้เราลง รอแป๊บเดียวผบสอบก็หมดอายุ รออีกสักพักข้าราชการเหล่านี้ก็คงค่อย ๆ ล้มหายตายจากกันไป และสูญพันธ์พวกก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ท่านจะรู้สึกอย่างไรได้ เพราะคนที่
ตายไม่ใช้ท่าน แต่เป็นเรา และคนอื่น ๆ ที่ตกอยู่ในฐานะอย่างเรา
พรบ.ค่าตอบแทนและเงินประจำตำแหน่ง เมื่อผ่านแล้ว จะติดกับดักโครงสร้างล๊อคไว้อีกชั้นหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้โตได้ด้วยความสามารถของแต่ละคน เหมือนเฉกเช่น ขรก.ครู /ผู้บริหารสถานศึกษา/ผู้บริหารการศึกษา/ บุคลากร 38 ค.(1 ) ใครทราบช่วยตอบที ขอความชัดเจนในหนทางความก้าวหน้า ว่าจะติดสองมาตรฐานเหมือนเดิมหรือไม่
ขอแสดงความยินดี
ขอแสดงความยินดี นายกวิศร์ ..ที่ได้รับความเชื่อมั่น ไว้วางใจ เพื่อสานต่อ พัฒนา วิชาชีพให้เรา บุคลากรทางการศึกษา 38 ค (2) ของขวัญ กำลังใจ ที่เรา บุคลากรทางการศึกษารออยู่ ความเป็นธรรม ความก้าวหน้า ขอให้เราบุคลากรทางการศึกษาได้รับก่อนที่จะเกษียณอายุไปอีกคน
รอวันชื่นชมความสามารถนายก ดร.วิศร์
เขามองว่า...อย่างนี้นะ 38 ค (2) คือกลุ่มข้าราชการใน สพป,สพม. ที่มีตัวตน แต่ไม่มีวิญญาณ เป็นเหมือน.......ไล่เนื้อ
ให้คน ทั้งหลาย....(ครู)......คนอื่นได้ดี.....ตัวเองแห้ว............
ผู้ใหญ่ ไร้จิตใจ ( กคศ).....บอกว่า ให้ใช้ กม. กพ.โดยอนุโลม ........ แล้วมันจะโลมไปถึงไหน..............
เล่นมันเหมือนปักษ์ใต้.......ถ้าจะดี...(นะ).... ขอบคุณ
ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือน มิใช่เงินวิทยฐานะหรือเงินประจำตำแหน่ง คนละประเภทกันนะคะ ที่ทางสมาคมฯดำเนินการผลักดันให้ สพฐ./ก.ค.ศ./คุรุสภาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ดังนี้
*1.คุรุสภา เสนอให้บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา38 ค.(2)เป็นตำแหน่งวิชาชีพควบคุมเช่นเดียวกับ ศึกษานิเทศก์(จะได้รับเงินวิทยฐานะระดับชำนาญจะได้เงิน 3,500,ระดับชำนาญพิเศษได้5,600 บวกกับค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนอีก 3,500) โดยออกเป็นกฏกระทรวงศึกษาธิการ ตามข้อบังคับของคุรุสภาฯจึงต้องมีใบประกอบวิชาชีพ เพื่อเป็นการรับประกันว่าอาชีพนี้มีมาตรฐานสูง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ผู้ประกอบวิชาชีพนี้สามารถให้บริการทางสังคม โดยเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการเรียนสอน ผู้ปกครอง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความมั่นใจว่าบุตรหลานเมื่อจบออกมาแล้วเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม**และก.ค.ศ.ขอแก้ไขพรบ.ครูฯมาตรา 38 ค.(2) วรรคสองตัดคำว่า"อิง พรบ.ก.พ.โดยอนุโลมออกไปด้วย"
*2.ก.ค.ศ. ออกกฏ ก.ค.ศ.กำหนดตำแหน่งให้ บคศ.38 ค.(2)ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่ง เช่นเดียวข้าราชการพลเรือนตาม พรบ.ก.พ.51 ประเด็นนี้จะเกี่ยวข้องกับพวกเราคือ ตำแหน่งที่มีในกรอบของ สพท.ที่ได้รับเงินประจำแหน่งระดับชำนาญการได้แก่ นิติกร(ได้เงินเสี่ยงภัย3,500) ,พยาบาลวิชาชีพ ส่วนระดับชำนาญการพิเศษไม่ได้เงินประจำแหน่ง แต่ได้เงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือน 3,500 ถ้าจะได้เงินประจำตำแหน่งต้องเป็นระดับเชี่ยวชาญเท่านั้น **ตำแหน่งประเภททั่วไป(ซี8 เดิม)ที่เคยได้รับก็ได้รับต่อไป แต่ถ้าเปลี่ยนประเภท เปลี่ยนระดับ เปลี่ยนตำแหน่งให้งด)ระดับทักษะ ก.พ.ไม่กำหนดให้มีใน กรม สพฐ.
*****ถ้าอยากได้เงินวิทยฐานต้องมีใบประกอบวิชาชีพ
*****ถ้าอยากได้เงินประจำตำแหน่งต้องได้ระดับเชี่ยวชาญขึ้นไป
*****ถ้าอยากได้เงินค่าตอบแทนต้องเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษขึ้นไปฯ
*****ถ้าอยากได้เงินค่าตอบแทนบวกเงินประจำตำแหน่งต้องระดับเชี่ยวชาญขึ้นไปหรือประเภทอำนวยการ หรือบวกเงินวิทยฐานะ
***ถ้าอยากเข้าใจมากกว่านี้ให้ไปฟังวิทยากรในวันประชุมใหญ่ของสมาคมฯ23 ก.พ.54 นะจ๊ะ***
ตอบคุณ 38ค(2)
1. เกณฑ์การคัดเลือกผอ.กลุ่ม ได้แก่ ตำแหน่ง ผอ.เป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ ให้คัดเลือก โดยใช้ ว.10 ของ ก.พ. ไม่ได้ใช่ ว.22 เพราะหลังจาก พรบ.ก.พ.51 มีผลใช้บังคับ ก.พ.ได้จัดกลุ่มตำแหน่งที่สามารถเลือนไหลกันได้ เช่น ตำแหน่งปิดได้แก่ นิติกร ตำแหน่งกึงปิด นักวิชาการเงิน/นักวิชาการตรวจสอบภายใน ตำแหน่งเปิดที่มีในกรอบของ สพท.เรา และสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้เลย ได้แก่ นักวิชาการศึกษา นักทรัพยากรฯนักจัดการงานทั่วไป,นักวิเคราะห์ฯ ตำแหน่งพวกนี้จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ ก.ค.ศ.ยังไม่ได้จัดทำมาตรฐานกำหนดตำแหน่งใหม่ ใครที่ไม่มีวุฒิการศึกษาจึงเปลี่ยนเป็นนักวิชาการศึกษาไม่ได้ รอไปก่อน เพราะ กพ.เขาให้อำนาจ ให้กระทรวงจัดทำมาตรฐานการกำหนดตำแหน่งเอง จะกำหนดคุณสมบัติ คุณวุฒิอย่างไรก็ได้ขอเพียงให้สามารถทำงานให้ราชการสำเร็จก็แล้วกัน
2.ผอ.กลุ่มจะได้ปรับเป็นเชี่ยวชาญหรือไม? ไม่แน่ เพราะต้องผ่านการประเมินค่างานก่อน และที่สำคัญต้องเป็นตำแหน่งที่ ก.ค.ศ.กำหนดให้เป็นระดับเชี่ยวชาญ ซึ่งขณะนี้ กฏ ก.ค.ศ.กำลังจะมีผลใช้บังคับ ตำแหน่งที่ได้ ได้แก่นักวิชาการศึกษา,นักวิเคราะห์,นักวิชาการคอมฯ,นิติกร,พยาบาลวิชาชีพ นอกนั้นอด ต้องรอ สมัยหน้าก่อนค่อยขอเพิ่มเติมในตำแหน่งที่เหลือ เพราะขอไปตอนนี้ รมต.เขาก็ไม่เสนอให้หรอก เพราะไม่รู้จะอ้างหลักการและเหตุผลอะไร "จะบอกว่า ผมลืมดูว่า ก.พ.เขาให้ตำแหน่งอื่น นอกจากที่ขอไปตาม กฏ ก.ค.ศ.ฉบับที่กำลังมีผลใช้บังคับนี้ ขอเพิ่มตำแหน่ง นักทรัพย์/นักวิชาการตรวจภายใน,นักประชาสัมพันธ์,นักวิชาการเงินฯให้ได้ระดับเชี่ยวด้วย (เพราะจะได้เงินประจำตำแหน่ง) รมต.เขาคงไม่ขายความโง่เหง้าของตัวเองหรอก
3. ตำแหน่งที่ กฏ ก.ค.ศ.กำหนดถึงระดับเชี่ยวชาญ มีสิทธิทั้งหมด ถ้าประเมินค่างานผ่านเกณฑ์
***หลักการที่หน่วยเหนือคิดไว้คือ ตำแหน่งที่จะได้ระดับเชี่ยวชาญจะกำหนดไว้ที่ สพฐ. เพราะจะได้หาเงินง่ายหน่อย และยังมีผลงานระดับกรม ระดับกระทรวง ประเมินค่างานแล้วมันจะได้คะแนนสูงตามที่ ก.พ.กำหนดแน่นอน มีสิทธิ เตรียมทำวิจัย R&D ไว้ได้เลย***
การคัดเลือก ผอ.กลุ่มการเงินล่าช้าออกไป นั่นถือว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวที นี้ ที่ ผอ.สพท.ควรเลือกทำ "รอกรอบอัตรากำลังใหม่ ประมาณ ต.ค.54" ออกมา แล้วจะมองเห็นทางออกที่ง่ายที่สุด
**ตำแหน่ง ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่จะบอกได้ว่าใครจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อราชการได้ดีที่สุด แต่ อยู่ที่ประสบการณ์ ทักษะและสมรรถนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ฝึกฝนได้ภายหลัง *ตำแหน่ง วุฒิ เป็นเพียงความคาดหวังขององค์กรในการสรรหาครั้งแรกเท่านั้น พอนานไปก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะองค์กรจะเป็นแม่พิมพ์ในการหล่อหลอมเขา ด้วยค่านิยม และวัฒนธรรม ประเพณี อยู่ที่ผู้นำองค์กรเขาจะเป็นคนที่มีคุณธรรมคู่กับปัญญาหรือมีแต่ความรู้ ถ้าอย่างหลังผลผลิตที่ออกมาให้เราเห็นก็คือเด็ก ที่อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือก็ไม่ได้ อายุ11 ขวบก็มีลูก แล้วก็เข้าสู่วรจรสังคมที่ไร้คุณภาพ อย่าไปหวังอะไรมากเลย จะผิดหวังเปล่า ๆ เพราะทุกวันนี้ สังคมเขาหมดหวังกับการผลิตเด็ก ที่มีคุณภาพของพวกเราแล้ว
38 ค(2) คือเครื่องมือ กลไก ที่นำนโยบาย ไปสู่การปฎิบัติ เครื่องมือนี้ กำลังอ่อนล้า ขาดขวัญกำลังใจ ที่ตำแหน่งอื่น ๆ เขาก้าวหน้า ปรับขึ้น ขยับขึ้น มีเงินประจำตำแหน่ง มีเงินค่าตอบแทน ฯลฯ และตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี เจ้าพนักงานพัสดุ ยังมองไม่เห็นความก้าวหน้าทางสายอาชีพเลย ทั้งที่ เราก็ผ่านเข้าสู่ตำแหน่งด้วยการสอบแข่งขัน ขอได้โปรดท่านผู้ใหญ่ใจดี ผู้ที่มองเห็นช่องทางใด ให้ตำแหน่งอย่างพวกเราได้มีโอกาสปรับเปลี่ยนสายงานให้เป็นวิชาการ โดยใช้ประสบการณ์ที่ปฏิบัติงานมานาน ได้เติบโตกับเขาบ้าง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้สายอาชีพเราบ้าง หากเรียกจากบัญชีที่สอบก็ต้องไปไกลจากครอบครัวอีก แล้วอย่างนี้สถาบันครอบครัวก็เกิดปัญหาตามมา ขอได้โปรดเห็นใจข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่างเราด้วยเถอะ
เราเป็น จพง.ที่ผิดหวังจากการจัดกรอบอัตรากำลังครั้งก่อน ที่ไม่สามารถลงตำแหน่งได้ เน่ืองจากอยู่เขต ๑ ตำแหน่งมีน้อยกว่าคน ตอนนี้ได้ไปศึกษาต่อป.โท จนจบบริหารการศึกษา แต่ก็ยังทำงานอยู่ในตำแหน่งเดิม เราจะมีโอกาสได้เติบโตบ้างมั้ย .... สอบคัดเลือกขึ้นบัญชีไว้ แต่ก็ไม่มีตำแหน่งให้ลง ผู้ใหญ่ทั้งหลายน่าจะหาวิธีการให้ปรับเปลี่ยนตำแหน่ง จพง.ทั้งหลายให้เป็นตำแหน่งวิชาการได้บ้าง เพ่ือขวัญและกำลังใจของพวกเรา ชาว ๓๘ ค(๒)
และไม่ต้องกลัวว่าเม่ือเปลี่ยนเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการแล้วจะไม่มีคนทำงานธุรการ พวกเราจะทำกันเอง ตอนนี้รู้สึกเบื่อมาก ๆ
ไม่มีขวัญและกำลังใจในการทำงานเลย
การคัดเลือก ผอ.กลุ่ม(หัวหน้ากลุ่มเดิม) แต่ละ สพท.ได้ดำเนินการแต่งตั้งให้ปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่ที่เราจัดกรอบเมื่อ ปี2549 แล้ว โดยดูจาก เลขที่ตำแหน่งแรกของแต่ละกลุ่ม เช่น กลุ่มอำนวยการ อ.1 คือ หัวหน้ากลุ่มอำนวยการ เป็นต้น ซึ่งเป็นการแบ่งโครงสร้างการบริหารงานองค์กรเป็นการภายในของแต่ละ สพท.เอง ถ้าตาม กฏกระทรวงศึกษาธิการ จะแบ่งส่วนราชการไว้แค่กลุ่มเท่านั้น เช่น กลุ่มอำนวยการ กลุ่มนโยบายและแผนฯลฯ ส่วนกรอบโครงสร้าง กคศ.ก็จัดกรอบโครงสร้างหัวหน้ากลุ่มไว้ เฉพาะหัวหน้ากลุ่ม
* ที่ กคศ.แจ้งให้คัดเลือก ผอ.กลุ่มการเงินและสินทรัพย์ เพราะกลุ่มนี้ กระทรวงได้ประกาศโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของ สพท.เมื่อ ก.ย.2553 เพิ่มเติม กคศ.จึงมีมติ ให้คัดเลือก ผอ.กลุ่มนี้เพิ่มเติม ก็เท่านั้นเอง กลุ่มอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ตอบ
1. ผอ.กลุ่มจะมีโอกาสเป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับต้นหรือไม่?
- มี แต่ติดเงื่อนไขของ ก.พ.อย่างเดียว "เป็นตำแหน่งที่กฏกระทรวงกำหนดให้เป็นรองหัวหน้าส่วนราชการ"(เรามี รอง ผอ.สพท.ขั้นอยู่)
2.เงินค่าวิชาชีพ(เงินวิทยฐานะ ตาม พรบ.ครู) ท่าน รมต.มีบัญชาให้สนง.กคศ.ดำเนินการให้ตามที่สมาคมฯขอกำหนดตำแหน่งที่มีวิทยฐานะตาม มาตรา 39 จ.แล้ว
3.เงินประจำตำแหน่ง รอ กฏ กคศ.มีผลใช้บังคับ น่าจะไม่นานและ กคศ.กำลังดำเนินการ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งฯอยู่เช่น กัน
4. การติดตามเรื่องต่าง ๆตามวาระการประชุมใหญฯที่ รมต.รับที่จะดำเนินการให้ เช่น การขอแก้ไขข้อบังคับคุรุสภาฯให้ บค.38 ค.(2)เป็นวิชาชีพควบคุม(มีใบประกอบวิชาชีพของ บุคลากรทางการศึกษา เช่นเดียวกับ ศน.) ขณะนี้ คุรุสภาได้กำหนดให ผอ.กลุ่มได้รับใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารแล้ว สามารถนำไปประกอบการ สอบ รอง ผอ. ได้ **จบข่าวจ้า**
กรอบอัตรากำลังของ สพม./สพป.แต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน เพราะของ สพม.ก.ค.ศ.ได้อนุมัติกรอบไปเมื่อปี 53 ของ สพป.ยังใช้กรอบเดิมเมื่อปี 49 อยู่ จำตัวเลขไม่ได้ เดียวขอหาข้อมูลก่อนนะจ๊ะ ว่าแต่ละกลุ่มมีจำนวนเท่าไร (แต่เท่าที่ฟังข้อมูล ฟังนะ ) แต่ละ สพท.ได้ปรับกรอบตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของทางราชการ จนจำไม่ได้ว่ากรอบจริง ๆ แต่ละกลุ่มมีจำนวนเท่าไร (สำหรับสพท.ที่ไม่มีคน/ไม่มีเงิน)
รมต.สั่งการให้สำนักงาน กคศ.ดำเนินการแล้ว โดยการตั้งคณะทำงานดำเนินการอยู่ ทางนายกวิศร์ และ ผอ.ต่วน ได้ติดตามความเคลื่อนไหว และความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ขนาดนี้ จนท.ของ สำนักงาน กคศ.ขาดกำลังคนไป 20 กว่าราย ก็เลยทำงานไม่ทัน บางเรื่องได้มอบหมายให้ สพฐ.เป้นผู้ดำเนินการ เช่น การจัดทำกรอบอัตรากำลัง ก็เห็นใจ ทั้ง จนท.กคศ./สพฐ.นะคะ คนน้อย งานก็ยังไม่เป็นระบบ ขวัญกำลังใจก็ไม่มี(ซีต่ำ) และขณะนี้ สนง.กคศ.เองก็เร่งดำเนินการจัดทำกรอบโครงสร้างและอัตรากำลังของเขาเองเช่นกัน **คนขับเคลื่อนของเขาจริง ๆ มีน้อยมาก ๆ** ก็ได้แต่หวังว่าซักวันหนึ่งเขาคงเป็นมืออาชีพในการบริหารงานบุคคล เหมือน กพ. (ก็ช่วยเอาใจช่วยให้เขาผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วย) ในฐานะคนปฎิบัติงาน เหมือนกัน
**มีความเป็นไปได้ไม?"ตอบว่าได้คะ ขณะนี้ท่านพิษณุ ถึงแม้นท่านไปเป็นผู้ตรวจแล้วก็ยังให้ความกรุณาช่วยเหลือพวกเราอยู่ พร้อมให้คำแนะนำและดูแลพวกเราอยู่เช่นเดิม "ก็คงจะได้ขอให้พวกเราบางคนไปช่วยกันคะ"
เรียน คุณรัชนี คำศรี
ขอขอบคุณครับที่ส่งข่าวให้สมาชิกทราบและขอขอบคุณท่านวิศร์ และท่านต่วน ที่คอยดูแลพวกเรา และพวกเราขอเป็นกำลังใจให้ท่านทำงานนี้ได้เป็นผลเสร็จ
น่าเห็นใจ กคศ/สพฐ.ที่มีบุคลากรไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ถ้าพวกเรา ม.38 ค(2) จะขอไปเป็นไม้เป็นมือช่วยคิด ช่วยร่าง ช่วยพิมพ์ และนำเสนอตามขั้นตามตอนของระบบงาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วขึ้น จะสามารถทำได้ไหม และก็...ที่คุณรัชนี...บอกว่า "จะได้ขอพวกเราบางคนไปช่วยกัน" อันนี้ ก็อยากให้รีบขอเช่นเดียวกันครับ เพราะว่า ถ้ามองเห็นแล้วว่า สิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ มีความเป็นไปได้ 100% ก็อยากให้มันเกิดขึ้นเร็ว ๆ พวกเราจะได้มีขวัญกำลังใจ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในการปฏิรูปการศึกษาที่กระทรวงศึกษาได้มอบหมายให้พวกเราทำ และก็..พวกเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิด..ทำ..เรื่องนี้..อีก..
ขอขอบพระคุณท่านวิษณุ เป็นอย่างสูง ที่ท่านคอยห่วงใยดูแล เอาใจใส่ความทุกข์-สุข ของพวกเราอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด ท่านเป็นผู้มีพระคุณที่พวกเราให้ความเคารพมาโดยตลอดและตลอดไป เช่นเดียวกัน ขอให้ท่านได้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ราชการตลอดไป ครับ
เรียนถาม คุณพี่รัชนีค่ะ
การที่ สพร.แจ้ง(1 มิ.ย.54)ให้ผู้ดำรงตำแหน่ง นักจัดการฯ ชพ(ดำรงตำแหน่งผอ.กลุ่มอำนวยการ) มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก ผอ.กลุ่มสินทรัพย์ฯ นั้น ก็หมายความว่า มิต้องไปดูในเรื่องคุณสมบัติ,ข้อกำหนดต่างๆ เช่น เคยดำรงตำแหน่ง จบห.การเงินฯ (เมื่อครั้งสปจ.)หรือ ผ่านการอบรมของกรมบัญชีกลาง , มีวุฒิบัญชี 6หน่วย
แล้วใช่ไหมคะ คือ เป็นว่า ผอ.กลุ่มอำนวยการปัจจุบัน(ตน. นักจัดฯชพ) ก็มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก แล้วใช่หรือไม่คะ (ขอบคุณค่ะ)
การสรรหา ผอ.กลุ่มสินทรัพย์ฯ อย่างที่บอกนั้นแหละ กคศ./สพฐ.ผูกเงื่อนไขไว้ก็ต้องแก้เอง
ตอบ
1. สพฐ.ให้ทำขอยกเว้นเป็นกรณีเฉพาะราย แต่ต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกจาก สพท.ไปก่อน
2. การคัดเลือกของ สพท. กลุ่มเป้าหมายมาจาก จบห.กง.8(อาวุโส) /นวก.กง.8/นักจัดการฯ ชพ.(ผอ.กลุ่ม อก.เดิมที่เคยดำรงตำแหน่ง จบห.กง.8 มาก่อน)
*จบห.กง.8 หรือ /นักจัดการ ชพ. ถ้าจะให้วิเคราะห์ว่าใช้เงื่อนไขอะไรมาเป็นข้อยกเว้น ให้ดำรงตำแหน่งได้ ผอ.กลุ่มสินทรัพย์ได้ * ดังนี้
1.ต้องเป็นผู้เคยดำรงตำแหน่ง หัวหน้าฝ่าย/กลุ่ม กง.จาก สปจ./สป.มาก่อน
2.ผ่านการอบรมจากกรมบัญชีกลาง
3.เป็นผู้มีประสบการณ์ด้าน การเงิน บัญชี พัสดุ
4. มาตรฐานตำแหน่งที่ กคศ.กำหนด (ว.18 ปี 48) กำหนดให้ จบห.งานทั่วไป กำหนดลักษณะงานไว้ ให้ปฎิบัติงาน การเงิน บัญชี พัสดุ ด้วย ก็ถือว่าเขามีประสบการณ์ด้านนี้ เช่นกัน ด้วย
5. เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากราชการเป็นเหตุ กรอบกำหนดตำแหน่งเปลี่ยนไปโดยไม่ดูว่าคนเดิมเขาเป็นตำแหน่งอะไรอยู่
6.ตำแหน่ง จบห.ทั่วไป หรือ นัดจัดการงานทั่วไป ถือว่าเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ เป็นตำแหน่งที่เริ่มต้นจากระดับ 3
7. พรบ.ก.พ.51 ได้เยียวยา /หรือยกเว้น ว.12(การเข้าสู่ตำแหน่ง สายที่เริ่มต้นจากระดับ 3 ได้ไม่ต้องสอบ เช่น เจ้าหน้าบริหารงานธุรการ ถ้าจบ ป.ตรี ให้เป้นนักจัดการงานทั่วไปได้ด้วย,หรือเจ้าหน้าที่บริหารงานการเงินที่จบ ป.ตรี มีวุฒิ ด้านการบัญชี พานิชศาสตร์ฯ ก็ให้เข้าสู่ นวก.กง.ได้ ฯลฯ
8. สพฐ.ก็ได้วิเคราะห์แล้วว่า ผอ.กลุ่ม อก. ก็เข้าหลักเกณฑ์และเงือนไขนี้เช่นกัน ก็สามารถยกเว้นได้เป็นกรณี เฉพาะ โดย กคศ.สามารถเทียบประสบการณ์ได้
9. กคศ.ที่ได้กำหนดให้ อ.13,อ.14 ของ กง.ให้เป็น ผอ.กลุ่มการเงินฯ
10.สพฐ.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา โดยไม่มีฐานข้อมูลเดิม ก็เลยทำให้ ผอ.กลุ่ม อก.ได้รับผลกระทบ เป็นเหตุจากทางราชการ
11. ถ้า กคศ.กำหนดให้ ผอ.กลุ่มสินทรัพย์ เป็นตำแหน่งนักจัดการฯ ก็ยอมได้ เพราะถือว่าเคยดำรงตำแหน่งที่เริ่มต้นจากระดับ3และมีประสบการณ์ตรง
-วัฒนธรรมองค์กรและหลักทั่วไปในการบริหารคนในระบบราชการของธรรมาภิบาล ถ้า ผอ.กลุ่ม ว่าง สมควรรับย้าย ผอ.กลุ่ม ที่ กคศ.จัดอยู่ในกลุ่มตำแหน่งเดียวกันก่อน และเมื่อรับย้าย ผอ.กลุ่ม แล้ว จึงควรดำเนินการสรรหาผู้มีคุณสมบัติไปดำรงตำแหน่ง ผอ.กลุ่ม ที่ว่าง หลังการรับย้าย แบบนี้น่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด
-เหตุผล หรือ ครับ ได้มีการยอมรับในหลักกฎหมายและการบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับตำแหน่ง ผอ.กลุ่ม ที่เห็น ๆ กันมีดังนี้
1. เวลา ผอ.เขต เรียกประชุมแจ้งนโยบายสำคัญ ๆ ก็จะเชิญ ผอ.กลุ่ม แต่ละกลุ่มเข้าร่วมรับนโยบายเพื่อนำไปแจ้งต่อในกลุ่ม เพราะถือว่า ผอ.กลุ่ม ต้องรับผิด รับชอบ ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างทั้งคน ทั้งงานภายในกลุ่ม นั้น เวลาลูกน้องทำผิด ผอ.กลุ่ม ก็มีความผิดและถูกสอบสวนไปด้วยวันเวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน แต่ละเดือน จนครบปี อยากรู้ว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านมองเห็นความสำคัญของข้าราชการที่มีชื่อว่า "บุคลากรทางการศึกษา 38 ค (2) "บ้างหรือยัง ด้วยความหวัง เรารอ และรอ ความเมตตา ที่จะมองเห็นคุณค่ากันบ้าง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ หรือขวัญกำลังใจ ที่คาดหวังจะหมดหวัง
บุคลากร38ค(2)/อุดรธานี
ผอ.กลุ่ม/ชนก./ชนพ.....ล้วน 38ค(2) ด้วยกันทั้งนั้น..จริงไหม...?..แต่ระบบราชการจะด้วยใครก็แล้วแต่ล้วนกำหนดขั้นตอน/กระบวนการ/คุณสมบัติ..ให้มีลู่วิ่ง/เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ...ให้เห็นความสำคัญแบบเลอเลิศ...ทำให้ 38ค(2)ต้องอยู่ในวังวนการแย่งชิง..ชิงดีชิงเด่นกันจนอนาจใจ...ถ้ายิ่งมาตรฐานคุณธรรมผู้บริหารต่ำ...38ค(2) ยิ่งน่าสงสารจริง ๆ ...ขอเสนอให้ทุกตำแหน่งทุกระดับมีโอกาสเจริญก้าวหน้าโดยเสนอผลงานเชิงประจักษ์เช่นเดียวกับครู..(?)...ในเมื่อ (1) การปฏิบัติงานไม่ว่าจะรูปแบบใดล้วนมุ่งเสริม/เอื้อสู่การพัฒนานักเรียนด้วยกันทั้งนั้น...(2)การทำงานทุกรูปแบบจะได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ติดกำแพงใดๆ ...(3)ไม่ต้องเสียเวลาเลีย...กันไม่สิ้นสุดรุ่นแล้วรุ่นเล่า..ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถามใจผู้ใหญ่ว่า...มาตรฐานคุณธรรมผู้บริหารมีมากน้อยเพียงใด....(4)ในเมื่อให้เป็นบุคลากรทางการศึกษา(38ค)แล้วในสังกัด ศธ.(ไม่ใช่ กพ.)..(?)