((ดาวน์โหลดฟรี))แนวข้อสอบนิติกร สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
Cr : https://www.แนวข้อสอบราชการไทย.com/webboard/viewtopic/553
1. พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ให้ไว้ ณ วันใด
ก. ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
ข. ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
ค. ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
ง. ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
2. “ตราสารหนี้” หมายความว่าอะไร
ก. ตั๋วเงินคลัง
ข. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ค. พันธบัตรและตราสารอื่นที่มีผลก่อให้เกิดหนี้
ง. ถูกทุกข้อ
3. เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะสั้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก คือ
ก. ตั๋วเงินคลัง
ข. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ค. พันธบัตร
ง. หนี้สาธารณะ
4. เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะยาว คือ
ก. ตั๋วเงินคลัง
ข. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ค. พันธบัตร
ง. หนี้สาธารณะ
5. “สถาบันการเงินภาครัฐ” หมายความว่า
ก. สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม
ข. สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเพื่อส่งเสริมพาณิชยกรรม
ค. สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
6. ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
7. พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ มีกี่หมวด กี่มาตรา
ก. 4 หมวด 37 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ข. 5 หมวด 77 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ค. 5 หมวด 73 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ง. 5 หมวด 37 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
8. หน่วยงานใดเป็นผู้มีอำนาจในการกู้เงินหรือค้ำประกันในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยแต่ผู้เดียว โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ง. คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
9. รัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่นิติบุคคล หากมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อใช้ดำเนินกิจการให้กระทรวงเจ้าสังกัดมีอำนาจกู้ให้ได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากใคร
ก. รัฐมนตรี
ข. คณะรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ง. คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
10. จากข้อ 8 ถ้าเป็นการกู้เงินเพื่อการลงทุนรัฐวิสาหกิจจะต้องเสนอแผนงานลงทุนให้ใครพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน
ก. รัฐมนตรี
ข. คณะรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ง. คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
11. จากข้อ 8 หากเป็นการกู้เงินเกินห้าสิบล้านบาท จะต้องได้รับอนุมัติจากใครด้วย
ก. รัฐมนตรี
ข. คณะรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ง. คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
12. การกู้เงินโดยวิธีการออกตราสารหนี้ ให้ออกได้ตามสิ่งใด
ก. จำนวนเงิน
ข. ระยะเวลา
ค. วิธีการออกตราสารหนี้ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ง. ถูกทุกข้อ
13. ใครมีอำนาจลงนามในสัญญากู้ หนังสือหรือสัญญาค้ำประกัน หรือตราสารหนี้
ก. คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ข. รัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. คณะรัฐมนตรี
ง. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
14. กระทรวงการคลังต้องรายงานการกู้เงินและการค้ำประกันที่กระทำในปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้วให้รัฐสภาทราบภายในกี่วัน
ก. 30 วัน
ข. 60 วัน
ค. 45 วัน
ง. 90 วัน
15. ใครมีอำนาจปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะโดยดำเนินการกู้เงินรายใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม
ก. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
ข. คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ค. กระทรวงการคลัง
ง. คณะรัฐมนตรี
16. ข้อใด ไม่ใช่ วัตถุประสงค์การกู้เงินของกระทรวงการคลัง
ก. ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
ข. ให้หน่วยงานอื่นกู้ต่อ
ค. พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
ง. พัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
17. การกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกระทรวงการคลังกระทำได้เมื่อใด
ก. จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ข. จำเป็นต้องใช้เป็นเงินตราต่างประเทศ
ค. จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ
ง. ถูกทุกข้อ
18. การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะของกระทรวงการคลังกระทำได้เฉพาะเพื่ออะไร
ก. การประหยัด
ข. ลดความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยน
ค. กระจายภาระการชำระหนี้
ง. ถูกทุกข้อ
19. การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ในปีงบประมาณหนึ่ง ให้กระทรวงการคลังกู้เป็นเงินบาทไม่เกินวงเงินร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นและงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
ข. ร้อยละ 50 ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น
ค. ร้อยละ 80 ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ค
20. กระทรวงการคลังทยอยกู้เงินเป็นการล่วงหน้าได้ไม่เกินกี่เดือน เมื่อเห็นว่าไม่สมควรกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีจำนวนเงินมาก
ก. ไม่เกิน 6 เดือน
ข. ไม่เกิน 3 เดือน
ค. ไม่เกิน 5 เดือน
ง. ไม่เกิน 12 เดือน