Phindia มีสุภาษิตที่ดีงามของจีนบทหนึ่งที่ผมชอบมากนั่นก็คือ
“เงินทองมีอยู่ตามท้องถนน มีปัญญา ก็จงหามาใส่ไว้ในกระเป๋า”
ส่วนของไทยก็ยังคงอิงหลักคำสอนของพุทธศาสนาที่ว่า
“อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา.....”
ทุกเชื้อชาติ ล้วนแล้วแต่มีหลักคำสอนที่ดีงาม ที่ควรค่าแก่การประพฤติปฏิบัติตาม น้อยคนนักที่จะทำได้ ไม่ใช่เพราะเหลือวิสัยที่มนุษย์จะพึงกระทำ แต่เพราะมีอะไรบางอย่างที่เป็นกำแพงทางความคิดขวางกั้นเอาไว้อยู่...นั่นก็คือข้ออ้าง หรือคำแก้ตัว ซึ่งเป็นอุปสรรคในการพัฒนาศักยภาพของคนให้มีสถานะไม่เท่าเทียมกัน มีคนในโลกนี้เป็นจำนวนมาก ที่สูญเสียเวลาอันมีค่าในการหลอกตัวเองด้วยการหาคำแก้ตัว ให้กับการกระทำที่ผิดพลาดของตัวเอง บ่อยครั้งและก็บ่อยจนชาชินที่เรามักจะหาคำมาปลอบโยนตัวเองเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าตัวเองผิดกับการกระทำที่ผิดพลาดที่ผ่านมา
ผมเคยอ่านหนังสือของคุณประสาร มฤคพิทักษ์ ซึ่งก็หลายปีมาแล้ว แต่ก็ยังพอจำได้ลางเลือนถึงคำสอนอันทรงคุณค่าและน่านำมาเผยแพร่และอยากให้คนไทยนับล้านคนตื่นจากความผิดพลาดในอดีต และมีเป้าหมายที่ดีงามคืออนาคต...และคนอีกจำนวนมากที่มักจะชอบโกหกตัวเอง...ด้วยคำแก้ตัวเหล่านี้
1.ถ้าฉันมีความเชื่อมั่นตัวเองมากกว่านี้…
2.ถ้าฉันไม่วิตกกังวลมากเกินไป …
3.ถ้าฉันหมดหนี้สิ้นเมื่อไร…
4.ถ้าฉันเกิดในตระกูลเศรษฐี…
5.ถ้าฉันได้เพื่อนดีๆ...
6.ถ้าฉันได้โอกาสเหมือนอย่างคนอื่นเขา…
7.ถ้าฉันมีเวลามากกว่านี้…
8.ถ้าฉันเรียนสูงกว่านี้...
9.ถ้าฉันมีเงินมากกว่านี้…
10.ถ้าฉันไม่มีภรรยาและลูก…
11.ถ้าฉันตัดสินใจทำตั้งแต่ตอนนั้น...
12.ถ้าฉันเลิกสูบบุหรี่ ตั้งแต่ตอนนั้น…
13.ถ้าฉันถูกหวยสักครั้ง...
14.ถ้าฉันมีอดีตที่งดงามกว่านี้...
15.ถ้าฉันมีเงินเก็บเมื่อไร...
16.ถ้าฉันตั้งใจเรียนตั้งแต่ตอนนั้น...
17.ถ้าหากย้อนอดีตไปได้ ฉันจะ....
18.ถ้าฉันรู้ตั้งแต่ตอนแรก ฉันจะไม่ทำ..
ความสำเร็จ...ที่อยู่เบื้องหน้าของคนอีกเป็นจำนวนมาก ที่มักจะโดนคำแก้ตัวเหล่านี้ บิดบัง...และหลอกหลวงอยู่เสมอ และบ่อยครั้งที่มีผู้คนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า....และมักจะปลอบโยนกับคำพูดเหล่านี้ เพียงเพราะ....ไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกว่าผิด และอยากให้โอกาสกับตัวเองอีกครั้ง
วันหนึ่ง มี 24 ชั่วโมง คนเราอาจจะใช้เวลามากมาย เพียงเพื่อจะหลอกตัวเองด้วยการสร้างข้อแก้ตัวขึ้นมาเพื่ออำพรางความอ่อนแอ ซึ่งถ้าเอาเวลาดังกล่าวไปใช้ในทางอื่น เวลานั้นจะมากพอที่จะขจัดความอ่อนแอ และทำคุณประโยชน์ให้กับตัวเองและคนรอบข้าง โดยไม่จำเป็นต้องสร้างข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง
สมัยผมยังเรียนอยู่ชั้นประถม-ป.โท ผมเคยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมเพื่อนแขก ฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลีจึงเรียนเก่ง...พอโตขึ้นมา อาศัยความรู้และกระบวนการคิดที่หลากหลาย จึงเข้าใจ วิถีทางของการดำเนินชีวิตของผู้คน ว่าทำไมถึงแตกต่างกัน...เมื่อตอนเด็ก เพื่อนที่เรียนเก่ง หลังจากเลิกเรียนทบทวนวิชาที่อาจารย์สอน ...แต่ผมกับใช้เวลาเดียวกันเล่น..เที่ยว มีผู้คนเป็นจำนวนมาก ที่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ เพราะชอบอ้าง...หรือมักจะหาคำแก้ตัวให้กับตัวเองเสมอ หรือมีหลากหลายผู้คนที่โยนความผิดให้กับเหล่าผีสางเทพยดาโดยมักจะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด หรือกระทำผิด
นี่อาจจะเป็นหลักความจริงที่ว่า ไทย ฝรั่ง แขก เกาหลี ญี่ปุ่น...ภาวะความเป็นมนุษย์เหมือนๆกัน แต่มีผู้คนใช้ภาวะความเป็นมนุษย์แตกต่างกัน...ดังนั้น ผลและคุณค่าของความเป็นคน จึงแตกต่างกัน เพียงเพราะ...คำแก้ตัว..หรือคำรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ทุกคนล้วนแล้วแต่มีอดีตที่ปวดร้าว กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำผิดพลาดไป
อดีตคือผลข้อสอบของชีวิต
ปัจจุบันคือแบบฝึกหัดที่เราต้องทำต่อไป
อนาคตจะเป็นครูที่คอยชี้และเป็นเข็มทิศ ที่เราควรจะเดินไปหาเป้าหมายของชีวิต
อนาคตไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริงที่มันยังมาไม่ถึง ...ของวันนี้
วันนี้คุณทำสิ่งดีๆให้กับตัวคุณเองหรือยัง ???
หรือกำลังสรรหาคำแก้ตัวให้ตัวเองอยู่....